รายละเอียด:
| ฮิต: 13048
อาตมาชื่อ พระทวี เตชโสตฺถิโก อายุ 28 ปี ก่อนบวชทำ อาชีพรับซื้อของเก่ากับ โยมพ่อ ได้อุปสมบทที่วัดพิพิธปราสาทสุนทร จ.ฉะเชิงเทรา ใน โครงการบวชพระหนึ่งแสนรูปเข้า พรรษาทั่วไทย
..หากย้อนไปก่อนหน้านี้สักหน่อย ก็แทบจะไม่เชื่อเลยว่าคนอย่างอาตมาจะมาบวชกับเขาได้ เพราะเคยมีชีวิตเหลวแหลกเป็นไอ้ขี้เหล้าโมโหร้ายคนหนึ่ง กินแต่เหล้าจนไม่มีเงินกินข้าวเพราะทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือสตางค์แค่ 2 บาท ก็เลยไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะโทรบอกน้องสาวว่า พี่ไม่มีเงินแล้ว ให้เอาข้าวมาให้กินหน่อย และทันใดนั้นเอง... ก็เหลือบไปเห็นโปสเตอร์ชวนบวชพระรุ่นเข้าพรรษาแสนรูปที่ติดอยู่ในตู้โทรศัพท์ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
จนกระทั่งกลับมาถึงบ้าน ก็มานั่งซดเหล้าต่อ เมาโวยวายจนน้องสาวโมโหมาก หันมาบอกว่าให้ไปบวชซะ เผื่อชีวิตมันจะดีขึ้น อาตมาก็บอกว่า รู้จากโปสเตอร์ที่เขาแปะอยู่ที่ตู้โทรศัพท์แล้ว แต่ไม่บวชหรอก น้องสาวก็ตอบกลับว่า ทีทหารลำบากกว่านี้เป็น 100 เท่าทำไมเป็นอยู่ได้ตั้ง 2 ปี แค่บวช 3-4 เดือน ทำไมทำไม่ได้ ส่วนเรื่องลูกพี่ก็ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวจะเป็นภาระจัดการให้ทุกอย่า ง ตอนนั้นอาตมาตวาดน้องสาวไปว่า ไม่บวช ยังไง ๆ ก็ไม่บวช.. คือ เราคุยกันอย่างกับอภิมหาสงครามเดือนเดือดเลือดพล่าน แต่แล้วก็คุยกันไม่รู้เรื่อง อาตมาก็เลยประชดหยิบเชือกร้อยเป็นบ่วงพอดีคอ พร้อมจะรัดคอตาย และก็บอกน้องสาวไปว่า หากให้กูบวช..กูผูกคอตายซะดีกว่า
เมื่อน้องสาวฟังดังนั้น..!! แทนที่จะตกใจห้าม เปล่าเลย...เธอไม่รอช้า รีบจับหัวอาตมากดยัดลงไปในบ่วงผูกคอนั้น แล้วก็ตะโกนใส่ว่า อยากตายมากนักใช่ไหม ตายเลย...ย..ย.. ตายซะให้เสร็จ ๆ ไป... ทำ ไมให้ทำดีถึงไม่อยากทำ พอสักครุ่น้องสาวเห็นอาตมาท่าไม่ดี เขาก็ผ่อนมือออก แล้วก็บอกว่า ที่ยอมมีชีวิตที่ลำ บากเป็นภาระให้ทุกเรื่อง ก็เพราะเป็นห่วงพี่ รักพี่มากไม่อยากให้ใครมาดูถูกพี่ น้องสาวอาตมาชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูด จนมีคนมาห้ามว่า ถ้าพี่เขาไม่บวช ก็อย่าไปบังคับเขาเลย น้องอาตมาโต้กลับไปว่า ไม่ได้บังคับ ก็แค่พูดให้เข้าใจเท่านั้น จนสุดท้ายอาตมาก็ทนความปรารถนาดีอย่างแรงกล้าหัวชนฝาของน้องสาวไม่ไหว ก็เลยยอมบวช ซึ่ง..งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้น้องสาว ตอนที่ฆฏิการะชวนโชติปาละให้ไปเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังแค่ดึงมวยผม แต่โยมน้องสุดเลิฟของอาตมานี่ เล่นเอาหัวอาตมายัดกดบ่วงรัดคอ เกือบตายเลย
ด้วยเหตุนี้.. อาตมาจึงขอยกให้เธอเป็นสุดยอดกัลยา-ณมิตรแห่งปี อยากทราบไหมว่าเธอชื่ออะไร เธอชื่อเหมือนนางงามจักรวาลผู้มีใจอ่อนโยน ชื่อ “ปุ๋ย”...
และแล้ว..วันที่ดีที่สุดของครอบครัวอาตมาก็มาถึง คือวันขอขมาลาโทษพ่อแม่พี่น้องก่อนจะบวช ซึ่งขณะที่ทุกคนมากันพร้อมหน้า พออาตมาก้มลงกราบแล้วเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้นแหละ พ่อแม่พี่น้องทุกคนร้องไห้กันหมดเลย ทำเอาอาตมาแทบจะกล่าวคำขอขมาไม่ได้ เพราะดันร้องไปด้วย มันเต็มตื้นมาจุกอยู่ที่คอ รู้สึกเหมือนกับว่าที่ผ่านมา อาตมาทำบาปกับเขาไว้มาก
จนกระทั่งมาถึงวันนี้ อาตมารู้สึกว่า โอกาสในการแก้ตัวมาถึงแล้ว ที่จะทำตัวใหม่ให้ทุกคนได้ภูมิใจ พออาตมาได้บวช ก็รู้สึกเหมือนตัวเองได้เกิดใหม่ บนโลกใบใหม่ และก็รู้สึกดีเหลือเกินกับการเกิดใหม่แบบนี้ เพราะมีความสุขในผ้าเหลืองอย่างบอกไม่ถูก เพราะทั้งชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยสงบอะไรแบบนี้มาก่อน รู้สึกตัวเองเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากใจร้อนโผงผางโวยวาย เดี๋ยวนี้รู้แต่ว่า ไม่อยากทำอย่างนั้นไปซะเฉย ๆ เพราะพึงพอใจกับชีวิตที่สงบ เรียบง่าย
การบวชทำให้อาตมาได้นั่งสมาธิเยอะมาก พอนั่งมากเข้า ๆ ใจก็เริ่มสงบ จนกระทั่งเห็นดวงสว่าง และเห็นองค์พระอยู่กลางตัวเรา เป็นความสุขที่ทางโลกเทียบไม่ได้เลย จนอยากจะพูดออกมาว่า เป็นช่วงชีวิตที่ดีที่สุดในชีวิต จนรู้สึกมีกำลังใจสู้ชีวิตอย่างเหลือเฟือ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แม้การบวชจะลำบากสักหน่อย เพราะต้องฝึกตน ทนหิวบำเพ็ญตบะ ต้องพัฒนาวัดและทำอะไรหลาย ๆ อย่าง แต่เมื่อเทียบกับตอนที่เป็นทหารแล้ว ต่างกันลิบลับ เพราะตอนเป็นทหาร หากคุยกันในแถว กินข้าว หรือทำอะไรไม่พร้อมกันแม้แต่นิดเดียว ก็โดนเตะแล้ว บางทีก็โดนให้ซ่อมหนัก ๆ แต่มาอบรมครั้งนี้ ยังไม่เคยโดนเตะเลย
กิจกรรมที่อาตมาสนใจที่สุด ในการบวชครั้งนี้ คือ การเดินธุดงค์ เพราะปัจจุบันเราแทบจะไม่เห็นพระธุดงค์เลยอาตมาจึงอยากเดินมาก พอได้เดินแล้ว ก็ได้ข้อคิดอะไรเยอะมาก ได้ฝึกความอดทน ฝึกสติ ได้ประกาศศาสนา ได้โปรดญาติโยม รู้สึกประทับใจมาก
หลังจากจบโครงการแล้ว อาตมาก็ยังไม่อยากสึก เพราะเกิดอุดมการณ์อยากจะช่วยฟื้นฟูพระพุทธศาสนา รู้สึกว่าเราเข้ามาพึ่งพระศาสนาแล้ว เราก็อยากให้พระศาสนาได้พึ่งเราบ้างจึงเข้าโครงการไปพัฒนาวัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง ทำวัดที่รุ่งแล้วให้เป็นวัดที่รุ่งยิ่ง ๆ ขึ้นไป ซึ่งอาตมาก็ได้ย้ายมาอยู่ที่วัดจุกกะเฌอ จ.ชลบุรี
อาตมาได้มาพัฒนาวัด ช่วยเขาปูกระเบื้อง ชวนญาติโยมมาช่วยกันเอาบุญ ทำพื้นไว้สำหรับให้ญาติโยมมานั่งสมาธิ และก็ช่วยเป็นพระอาจารย์ในโครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนล้านคนทั่วประเทศคือ อยากจะให้วัดแห่งนี้กลายเป็นศูนย์รวมใจของชาวบ้านละแวกนี้อีกครั้งเผื่อมีชาวบ้านที่มีอดีตอย่างอาตมา เขาก็จะได้มีโอกาสเข้ามาบวช เข้ามาปฏิบัติธรรมในวัดนี้ แล้วเปลี่ยนเป็นคนดีของสังคม อาตมาก็จะได้บุญไปกับเขาด้วย
อาตมารู้สึกว่า ชีวิตนักบวชต่างกับตอนเป็นฆราวาสราวกับฟ้ากับเหว รู้สึกสงบสุข และก็ได้ทำ ตนให้เป็นประโยชน์รู้สึกภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งโยมพ่อ โยมแม่ และญาติ ๆ ยิ่ง
ปลื้มกับอาตมามาก เมื่อเขารู้ว่าอาตมาบวชต่อ คือ เขาก็ปลื้ม จนน้ำตาไหล ดีใจกันมาก เพราะจากเดิม..เขาไม่เชื่อว่าคนอย่างอาตมาจะบวชได้ แต่พอบวชแล้วยังอยู่ช่วยงานพระศาสนาต่อเขาจึงดีใจกันใหญ่
สุดท้ายนี้อาตมาอยากจะฝากข้อคิดว่า เราอย่าเพิ่งคิดว่าการบวชเป็นเรื่องเล่นๆ หรือให้ประโยชน์อะไรเราไม่ได้มาก เพราะก่อนหน้านี้ อาตมาก็คิดแบบนี้มาก่อนและก็ไม่ยอมบวชท่าเดียว แต่พอมาบวชเข้าจริงๆมันไม่ใช่แค่บวชเพื่อให้พ่อแม่สบายใจ เพราะนอกจากตัวเราจะได้บุญมากแล้ว ยังทำให้เราพบคุณค่าแห่งชีวิต แบบที่เราจะไม่มีทางหาได้จากที่ไหนเลยจริง ๆ ...
จากหนังสือ WHY? ทำไม? ใครๆก็บวชกัน
สื่อธรรมะ วัดพระธรรมกาย