ประสบการณ์วันพบจุดเปลี่ยนของ... "พระพรมสรร อภิวฑฒโน"
เขียนโดย A-Rom-D
ประสบการณ์วันพบจุดเปลี่ยนของ ... "พระพรมสรร อภิวฑฒโน" |
จากดอกมะลิสีขาวบริสุทธิ์ .... สู่ดอกประดู่สีเหลืองทองอร่าม
ชมรมพัฒนาศักยภาพและคุณธรรม ( R & DTC ) เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรารู้จักการนั่งสมาธิ การไปเข้าค่ายกับชมรมดังกล่าวหวังเพื่อจะไปพักผ่อนสบาย ๆ ท่ามกลางบรรยากาศอันสดชื่น แวดล้อมไปด้วยขุนเขา แมกไม้ พฤกษาและสัตว์ป่านานาพันธุ์ ตอนนั้นได้รู้จักเพื่อนใหม่มากมาย ทุกคนมีใบหน้าอิ่มเอิบ เบิกบาน ที่สำคัญมีการสอนสมาธิแบบง่าย ๆ และได้รับความสุขจากการนั่งสมาธิ
จนถึงช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน ชมรมพัฒนาศักยภาพและคุณธรรมรับสมัครนักศึกษาเข้าโครงการอบรมธรรมทายาทสามเดือน จึงตัดสินใจสมัครเข้าอบรมทันที ด้วยหวังว่าจะได้มีโอกาสเรียนรู้และฝึกสมาธิมากขึ้น เพราะเคยเข้าค่ายฝึกสมาธิแค่ 7 วัน ยังทำให้เรารู้สึกมีความสุขและสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางที่ดีขึ้นได้ฝึกภาคนาม บทฝึกธรรมทายาทบทแรก
ณ โรงเรียนนายร้อย จปร. จังหวัดนครนายก พวกเรากว่า 300 ชีวิตกำลัง ก้าวเช้าสู่สถานที่พิเศษที่สามารถปั้นดินให้เป็นดาวได้ เมื่อก้าวลงจากรถก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพี่เลี้ยงและครูฝึก หลังจากนั้นบทฝึกต่าง ๆ ก็มีขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวัน และกลางคืน เมื่อบทฝึกจบลงความสงสัยที่เคยมีก่อนหน้านี้ก็ถูกคลี่คลาย
ตลอด 3 วัน 2 คืนที่ผ่านมา ทุกกิจกรรม คือ กระบวนการหล่อหลอมที่ทำให้ความแตกต่างที่มาจากร้อยพ่อพันแม่รวมกัน เป็นหนึ่งเดียวอย่างเหนียวแน่นเหมือนข้าวเหนียวก้อนโตที่ถูกปั้นเป็นก้อน พร้อมรับประทาน ความกระทบกระทั่งหายไปเพราะต่างคนต่างเห็นใจและเข้าใจกันมากขึ้น และพร้อมที่จะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขในเพศสมณะต่อไป
กลด บ้านหลังน้อยระหว่างการอบรมจากเขาชะโงกสู่ลานกัลปพฤกษ์อันร่มเย็น ณ วัดพระธรรมกาย จากนั้นก็เป็นเวลาของการสร้างบ้านหลังน้อยด้วยอุปกรณ์เพียงไม่กี่ชิ้น มีร่มกลด 1หลัง ผ้าใบสีฟ้าขนาด 1 x 4 เมตร 1 ผืน และสมอบกอีก 4 อัน เนื้อที่ที่เราใช้นอนก็คงไม่เกินขนาดกว้างคืบ ยาววา หนาศอก ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องสร้างให้ใหญ่โตโอฬาร ข้าวของเครื่องใช้ก็มีเท่าที่จำเป็น มีชุดขาว2ชุด เสื่อ2 ผืน รองเท้า 2 คู่ อุปกรณ์อาบน้ำตามที่จัดให้ และอื่น ๆ อีกเล็กน้อยเท่านั้นเอง เป็นเหตุให้มีความสุขใจไร้กังวลพร้อมที่จะเจอกับบทฝึกอีกขั้น เพื่อก้าวสู่ความเป็นพระแท้ในเวลาอีกไม่นาน
จากนั้นก็เริ่มฝึกกิจวัตรแบบสมณะ คือ การนั่งสมาธิ ฟังธรรม และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ซึ่งตอนแรกๆ ก็ยังไม่คุ้น แต่ต่อมาได้ซึมซาบถึงความเย็นกายสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้จะถูกจำกัดด้วยเครื่องอำนวยความสะดวก แต่ความสุขภายในใจของเราไม่ได้ถูกจำกัดตามไปด้วย
เข้าพิธีอุปสมบท
1 เดือนผ่านไป วันที่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อก็มาถึง วันที่จะได้ยกฐานะของตนจากผู้นับถือพระรัตนตรัยขึ้นสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกับพระรัตนตรัย สดชื่นและเบิกบาน นุ่งผ้านุ่งนาค ตัวใหม่พร้อมเสื้อสีขาวบริสุทธิ์ ตั้งแถวเดินไปสู่พัทธสีมาอันศักดิ์สิทธิ์
ขบวนพิธีอันประกอบด้วยเหล่าเจ้าภาพผู้มีเกียรติ ผู้อันเชิญพานพุ่มดอกไม้ ผ้าไตรอัฐบริขาร และเหล่านาคธรรมทายาทหลายร้อยชีวิต เวียนประทักษิณ 3 รอบ จากนั้นหัวขบวนนาคธรรมทายาท ก็มุ่งหน้าสู่พัทธสีมาอุโบสถ แล้วนั่งทำสมาธิเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่พิธีขอขมาเมื่อรับผ้าไตรแล้วก็ย้อนกลับเข้าอุโบสถอีกครั้งเพื่อประกอบพิธีบรรพชาอุปสมบทต่อไปเมื่อพระอุปัชฌาย์เดินทางมาถึง เราต่างเปล่งคำขอบรรพชาโดยพร้อมเพรียงกันว่า
“สัพพะทุกขะนิสสะระณะนิพพานะสัจฉิกะระณัตถายะ
อิมัง กาสาวัง คะเหตวา ปัพพาเชถะ มัง ภันเต”
แปลความว่า “ข้าแต่พระอุปัชฌาย์ผู้เจริญ ขอท่านจงรับเอาผ้ากาสาวะ แล้วบวชให้ข้าพเจ้าด้วยเถิด เพื่อข้าพเจ้าจะได้ประพฤติปฏิบัติ กำจัดทุกข์ทั้งปวงให้สิ้นไป และกระทำ
พระนิพพานให้แจ้ง” เป็นการยืนยันถึงเป้าหมายอันสูงสุดของการบวชต่อหน้าพุทธปฏิมากร และหมู่สงฆ์อันศักดิ์สิทธิ์เมื่อพิธีกรรมเสร็จสิ้นลง นั่นหมายความว่าเราเป็นนักบวชโดยสมบูรณ์แล้ว หน้าที่ต่อไปก็คือการปฏิบัติตนให้เหมาะสมตามสมณธรรม
หลังจากเปลี่ยนเพศภาวะความรู้สึกก็เปลี่ยนไป คิดอยู่เสมอว่าจะต้องฝึกตนเองให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป เมื่อเห็นญาติโยมนำข้าวของมาถวายและกราบไหว้บูชา ก็ยิ่งต้องสำรวมตัวให้มาก เพื่อจะได้ใช้สอยปัจจัยของญาติโยมด้วยความไม่เป็นหนี้ อีกอย่างก็จะทำให้เขาได้บุญกับเราเยอะๆ
ด้วยบรรยากาศของการอบรมก็แสนจะอบอุ่น เรามีเพื่อนมากมายจากทั่วทุกมุมของประเทศ ทำให้ได้เรียนรู้ประสบการณ์ และวิถีชีวิตที่แตกต่างออกไป แต่ทุกอย่างก็รวมเป็นหนึ่งได้อย่าง กลมกลืน และสวยงาม เฉกเช่นพวงมาลัยพวงมาลัยหลากสีที่ถูกร้อยรวมกันด้วยความประณีต มีอาหารเราก็ฉันด้วยกัน ของใช้อื่น ๆ ก็แบ่งปันกันไปตามที่พอมี มีสุขเราก็สุขด้วยกัน มีทุกข์เราก็ร่วมกันต้าน ไม่ทิ้งกัน ส่วนพระอาจารย์พระพี่เลี้ยงก็ดูเป็นกันเอง รู้สึกอบอุ่นราวกับได้อาศัยอยู่ในบ้านของตน ที่แวดล้อมไปด้วยญาติพี่น้องอันเป็นที่รัก คอยดูแลแนะนำช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด
เริ่มต้นชีวิตสมณะ
เมื่อบวชเป็นพระแล้ว ข้าวของเครื่องใช้หรืออัฐบริขารก็มีแค่จำเป็น ทำให้นักบวชเป็นเพศภาวะที่ปลอดกังวล ผ้าที่นุ่งห่มก็มีเพียงแค่ 3 ผืน ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกขโมย เพราะคนทางโลกเขาไม่ใช้ผ้าแบบนี้กัน เพราะฉะนั้นโจรที่จะมาขโมย ต้องคิดหนักเหมือนกันว่าจะขโมยจีวรพระไปทำไม เมื่อเป็นเช่นนี้พระจึงไม่เป็นกังวล ทำให้มีเวลาว่างมากในการประพฤติธรรม และปฏิบัติกิจวัตรความปลอดโปร่งไร้กังวลเหล่านี้เอง ทำให้ใจสงบ หลุดพ้นจากเครื่องพันธนาการของใจ หนำซ้ำกิจว้ตรต่าง ๆ ได้แก่ การสวดมนต์ทำวัตรเช้า เย็น การบิณฑบาต การทำความสะอาดเสนาสนะ การฟังธรรมและการปฎิบัติธรรม เป็นไปเพื่อทำให้ใจสงบนิ่ง เยือกเย็น เป็นสมาธิ เกิดความสุขขึ้นภายในใจ เป็นความสุขที่ใสบริสุทธิ์ ปราศจากมลพิษทั้งปวง โดยไม่ต้องหวังพึ่งสิ่งต่าง ๆ ภายนอกเลย
โดยเฉพาะเมื่อใจหยุดนิ่งได้เรื่อยๆ ความสุขก็ยิ่งหลั่งไหลพรั่งพรูออกมาจากศูนย์กลางกายสุดจะนับจะประมาณได้ เป้นความสุขที่ไม่เคยพบเจอจากที่ไหนมากก่อนเลยในชีวิต สุขเกินกว่าจะสามารถใช้โวหารใด ๆ บรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ เป็นความสุขที่เที่ยงแท้ แบะยั่งยืนจริง ๆ เพียงกำหนดใจนิ่งเบา ๆ สบาย ๆ ไว้ที่ศูนย์กลางกายเท่านั้นเอง
เวลาที่ผ่านไปของชีวิต นานแค่ไหนแล้ว ?
ความสุขที่ค้นหาอยู่ พบเจอกันบ้างไหม ?
ที่มา... หนังสือ “จุดเปลี่ยน”