อานิสงส์การเป็นภรรยาที่ดี
“บุญนั้นแล ย่อมเป็นของเขา
เขาพาบุญนั้นไป และบุญนั้นย่อมติดตามเขาไปเหมือนเงาตามตัว”
(อุตตราวิมาน)
เรื่องของบุญเป็นเรื่องอจินไตย สามารถรู้ได้เห็นได้ด้วยธรรมจักษุและญาณทัสนะอันบริสุทธิ์ของพระธรรมกาย บุญที่เราทำนั้นย่อมไม่สูญหายไปไหน จะตามติดเราไปเหมือนเงาตาม
ตัว และเมื่อถึงคราวบุญส่งผล จะทำให้เราสมบูรณ์พร้อมในทุกสิ่ง ไม่มีขาดตกบกพร่องจะมีแต่ความสุข ความเจริญรุ่งเรือง ยิ่งถ้าได้ทำบุญถูกเนื้อนาบุญ กำลังบุญก็จะยิ่งเพิ่มพูนเปน็
ทับทวี เกินกว่าจะนับจะประมาณได้ ที่เรยี กว่าผลบุญเป็นอจินไตย คือ เกินกว่าการคาดคิดด้นเดาด้วยปัญญาของมนุษย์ว่าจะได้บุญเท่าไร
การถวายทานโดยตัดขาดจากใจ ไม่คิดเสียดายในภายหลัง ใจไม่ติดในวัตถุสิ่งของที่ให้ไปแล้ว จิตเป็นกุศลตั้งมั่นอยู่ในบุญเพียงอย่างเดียว อานิสงส์ผลบุญนั้นก็จะได้เต็มเม็ดเต็ม
หน่วย ซึ่งวัตถุทานจะมากหรือน้อยไม่สำคัญเพราะเมื่อจิตเลื่อมใสในพระรัตนตรัยแล้ววัตถุทานแม้เพียงเล็กน้อยก็ชื่อว่ามีผลมากมีอานิสงส์ไพบูลย์
บุญเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต ที่จะทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นจากยากจนเข็ญใจให้กลายเป็นมหาเศรษฐีได้หรือจากสามัญชนให้กลายเป็นกัลยาณชนผู้มียศถา
บรรดาศักดิ์ กระทั่งเป็นอริยชนหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะเป็นพระอริยเจ้า เหมือนดังเรื่องของหญิงคนหนึ่ง ผู้รู้จักทำหน้าที่ของตนได้อย่างสมบูรณ์ บุญจึงส่งผลให้นางได้ไปบังเกิดใน
สวรรค์ มีวิมานที่สว่างไสว
ในสมัยพุทธกาล มีหญิงคนหนึ่งอาศัยอยู่ในเมืองสาวัตถี นางเป็นหญิงที่มีจิตใจดีงามมาตั้งแต่เด็ก เมื่อแต่งงานมีครอบครัวก็ได้ปฏิบัติดูแลสามีอย่างดี ทำหน้าที่ยอดภรรยาไม่ให้ขาด
ตกบกพร่อง เมื่อสามีให้คำแนะนำอะไรก็ตาม นางจะรับฟังด้วยความเคารพยำเกรงและนำมาแก้ไขปรับปรุงตนเองอยู่เสมอนางเป็นหญิงที่มีความซื่อสัตย์ต่อสามีมากบางทีสามีอาจว่า
กล่าวนางอย่างไม่ถูกต้อง แม้บางครั้งนางจะรู้สึกขัดเคืองบ้าง แต่นางก็เป็นผู้ไม่ลุแก่อำนาจโทสะ ไม่หุนหันพลันแล่นจะนิ่ง ๆ เก็บอารมณ์ความรู้สึกได้ดี และรอคอยเวลาที่ต่างคนต่างใจ
ใสดีแล้ว จึงจะชี้แจงเหตุผลกัน จะไม่กล่าวถ้อยคำหยาบคาย จะพูดแต่เรื่องจริงและเป็นประโยชน์เท่านั้น
นางเป็นศรีภรรยาและเป็นลูกสะใภ้ที่ดีคือ เรื่องร้อนภายในบ้านก็ไม่นำออก เรื่องร้อนภายนอกก็ไม่นำเข้ามา ให้การตอบแทนแก่ผู้ที่มีน้ำใจ และให้ทานสงเคราะห์โลก สงเคราะห์หมู่
ญาติมิตร และให้ทานในพระพุทธศาสนาวางตัวได้เหมาะสม ทำให้นั่งนอนเป็นสุขนางปฏิบัติดูแลสามีและพ่อแม่สามีประดุจเทวดาภายในบ้าน การปฏิบัติตัวเช่นนี้นับเป็นคุณธรรมความดี
ที่น่ายกย่องและหาได้ยาก ในขณะเดียวกันนางก็เป็นผู้ที่รักในการสั่งสมบุญเป็นกุลสตรีที่มีสัมมาทิฐิ เชื่อเรื่องบุญเรื่องบาปมีความเลื่อมใสอย่างเต็มเปี่ยมในพระรัตนตรัยให้ทานเป็น
ประจำสม่ำเสมอ โดยจะหาโอกาสเดินทางไปที่มหาวิหารเชตวัน เพื่อฟังธรรมและสั่งสมบุญเป็นประจำไม่เคยขาด
เมื่อกลับมาแล้ว นางก็ทำหน้าที่ของศรีภรรยาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นไปอีก คือ นางได้ทำตามพุทโธวาทว่า ภรรยาผู้เป็นทิศเบื้องหลังอันสามีบำรุงด้วยสถาน ๕ เหล่านี้แล้ว ย่อมอนุเคราะห์
สามีด้วยสถาน ๕ คือ
๑. จัดการงานดี นางไม่เป็นคนเกียจคร้าน ตื่นก่อนนอนทีหลังอยู่เสมอ
๒. สงเคราะห์คนข้างเคียงสามีดี นางก็ทำได้ถูกใจทุกคน ได้อะไรมาก็นำไปแบ่งปันให้แก่หมู่ญาติหรือเพื่อน ๆ ของสามี ทำให้นางเป็นที่รักของคนรอบข้าง
๓. ไม่ประพฤตินอกใจสามี เนื่องจากนางรักษาศีล
๕ เป็นปกติ วันพระก็รักษาอุโบสถศีลไม่เคยขาด จึงไม่เคยคิดนอกใจสามี
๔. รักษาทรัพย์ที่สามีหามาให้ นางเก็บและรักษาทรัพย์ไว้ ไม่เคยนำไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายหรือเอาไปเล่นการพนัน ทำให้ครอบครัวของนางมั่นคง ร่ำรวยทั้งสินทรัพย์ และรวยบุญ
บารมี
๕. ขยัน ไม่เกียจคร้านในกิจการงานทุกอย่าง นางเป็นภรรยาที่สามีทั้งรักและเกรงใจ แม้พ่อแม่สามีก็ยังให้ความเกรงใจ เพราะนางขยันทำงานมาก และขยันทำบุญไม่เคยขาดอีก
ด้วย
แต่น่าเสียดายยิ่งนัก ชีวิตในโลกมนุษย์ของนางช่างแสนสั้น เพราะมัจจุราชมาคร่าชีวิตนางไปก่อนถึงวัยอันสมควร วันหนึ่งขณะที่นางทำหน้าที่แม่บ้านเหมือนทุกวัน นางเกิดล้มป่วย
อย่างกะทันหันและสิ้นชีวิตทันที ด้วยอานุภาพแห่งการเป็นลูกสะใภ้ที่ดี เป็นศรีภรรยา และหมั่นทำบุญไม่เคยขาด ส่งผลให้นางไปบังเกิดบนภพดาวดึงส์ มีทิพย์วิมานที่สวยงามมารอง
รับ อาณาบริเวณรอบวิมานมีฝูงนกทิพย์ชุมนุมส่งเสียงร้องอย่างไพเราะเสนาะโสตมหาวิมานก็ดารดาษไปด้วยทิพยบุปผชาติอันวิจิตรสวยงาม ทั้งมหารัตนะหลากชนิดส่องประกายระยิบ
ระยับไปทั่วอาณาบริเวณเหล่าเทพบุตรเทพธิดาจึงมักจะพากันมาสมาคมที่วิมานของเทพธิดาท่านนี้
พระมหาโมคคัลลานะได้เที่ยวจาริกไปในเทวโลก ขณะที่เหาะผ่านมา ท่านได้เห็นวิมานทองของเทพธิดาองค์นี้ ผู้มีรัศมีกายสว่างไสว รุ่งเรืองโดดเด่นเช่นพระอาทิตย์จรัสแสง เป็น
รัศมีที่เย็นตาเย็นใจ พระเถระปรารถนาจะให้นางเล่าบุพกรรมของนาง จึงถามว่า “ดูก่อนเทพีผู้มีอานุภาพมาก ท่านอยู่ในวิมานที่มีเสาสำเร็จด้วยแก้วไพฑูรย์ล้วนมีรัศมีประกายงดงาม
ท่านนั่งอยู่ในวิมานอันวิจิตรอลังการ สำแดงฤทธิ์ได้ต่าง ๆเทพอัปสรบริวารก็ฟ้อนรำขับร้องให้ท่านได้ร่าเริงบันเทิงใจ ดูก่อนเทพีผู้มีอานุภาพมากท่านได้บรรลุเทวฤทธิ์แล้ว เมื่อครั้งเป็น
มนุษย์ท่านได้ทำบุญอะไรเอาไว้ จึงมีอานุภาพรุ่งเรืองและวรรณะสว่างไสวไปทั่วทุกทิศ”
เทพธิดาย้อนระลึกถึงบุพกรรมที่เคยทำเอาไว้ รู้สึกปลื้มปีติในบุญกุศลที่ได้ทำไว้อย่างดีเมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ จึงกราบเรียนท่านว่า “เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ดิฉันเป็นอุบาสิกาของพระผู้มี
พระภาคเจ้าผู้มีธรรมจักษุ ดิฉันเป็นผู้งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ งดเว้นจากการลักทรัพย์ ยินดีเฉพาะสามีของตน ได้ทำหน้าที่ของศรีภรรยาอย่างสมบูรณ์ ไม่กล่าวคำเท็จและไม่ดื่มน้ำเมา
อีกทั้งดิฉันยังมีใจเลื่อมใสเมื่อบริจาคข้าวและน้ำ ได้ถวายด้วยความเคารพ เพราะบุญนั้น ผลบุญนี้จึงสำเร็จแก่ดิฉันและโภคะทุกอย่างที่น่าปรารถนาจึงเกิดแก่ดิฉัน ในครั้งที่เป็นมนุษย์อยู่
ดิฉันได้ทำบุญอันใดไว้ เพราะบุญนั้นดิฉันจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้”
เมื่อพระมหาโมคคัลลานะได้รับฟังแล้ว ท่านก็ชื่นชมอนุโมทนา แล้วกลับลงมาสู่โลกมนุษย์ตามเดิม และนำเรื่องนี้มาเล่าเป็นแบบอย่างในการสร้างความดีของชาวโลกต่อไป
ยอดนักสร้างบารมีทั้งหลาย... กว่าชีวิตของใครคนหนึ่งจะได้ไปเสวยสุขในสวรรค์นั้นต้องอาศัยกำลังบุญเป็นหลัก บุญเท่านั้นที่จะทำให้เราพรั่งพร้อมไปด้วยมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ
แม้ยังไปนิพพานไม่ได้ อย่างน้อยบุญก็จะประคับประคองให้เราเวียนว่ายตายเกิดอยู่แต่ในสุคติภูมิ
ยามใดที่เราจะทำบุญให้ทาน ก็ควรนึกถึงหลักวิชาของการให้ทาน เมื่อบุญบารมีของเราเต็มเปี่ยม จะได้ถึงพร้อมด้วยที่สุดแห่งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติจะได้เป็นที่พึ่งให้
แก่สรรพสัตว์ ทำหน้าที่ชักชวนมหาชนเข้าสู่กระแสแห่งธรรม เป็นยอดกัลยาณมิตรให้แก่ชาวโลก ให้ชาวโลกทั้งหลายหันมานับถือพระรัตนตรัย และเข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน ชีวิตใน
สังสารวัฏของเขาจะได้ปลอดภัย และมีมรรค ผล นิพพานเป็นที่ไปกันทุกคน
อานิสงส์แห่งบุญ
เรื่อง : พระมหาเสถียร สุวณฺณฐิโต ป.ธ.๙ / พระมหาวิริยะ ธมฺมสารี ป.ธ.๙
ภาพประกอบ : กองพุทธศิลป์