พระพุทธคุณ ๙
๖. ทรงเป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า “อนุตตโร ปุริสทัมมสารถิ” แปลว่า สารถีผู้ฝึกบุรุษที่ฝึกได้ ไม่มีใครยิ่งกว่า อาจแยกพิจารณาพระนามพระองค์เป็น ๓ ส่วน คือ
๑) อนุตตโร
๒) ปุริสทัมม
๓) สารถิ
๑) อนุตตโร หมายความว่า ยอดเยี่ยมอย่างไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน เหตุที่ทรงมีพระนามนี้ก็เพราะทรงพระคุณอันประเสริฐ บริบูรณ์ด้วยศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ อย่างหาผู้ใดเสมอเหมือนมิได้ ไม่ว่าจะเป็นพรหม เทวดา หรือมนุษย์ก็ตาม
๒) ปุริสทัมม หมายถึง ผู้ที่ฝึกได้หรือควรฝึก ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ อมนุษย์ หรือติรัจฉานก็ตาม
๓) สารถิ หมายถึง ผู้บังคับหรือผู้ฝึก
ปุริสทัมมสารถิ จึงหมายความว่า พระองค์สามารถฝึกผู้ที่ควรฝึกได้ไม่ว่าจะเป็นติรัจฉาน มนุษย์ หรืออมนุษย์ก็ตาม ดังที่ปรากฏในพระไตรปิฎกว่า แม้สัตว์ติรัจฉาน เช่น พญานาค หรือช้าง พระองค์ยังทรงฝึกให้สัตว์เหล่านั้นละพยศแล้วตั้งอยู่ในศีล แม้มนุษย์ เข่น อัมพัฏฐมาณพที่ไปรุกรานพระองค์ ในที่สุดก็ต้องไปกราบทูลขอขมาโทษ พร้อมกับโปกขรสาติพราหมณ์ผู้เป็นอาจารย์ หรือแม้อมนุษย์ เช่น อาฬวกยักษ์ พระองค์ยังทรงแนะนำสั่งสอน จนอาฬวกยักษ์ได้ดวงตาเห็นธรรม เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เมื่อนำคำว่า “อนุตตโร” และ “ปุริสทัมมสารถิ” มารวมกัน จึงมีความหมายว่า พระองค์ทรงพระคุณอันประเสริฐอย่างหาใครเสมอเหมือนมิได้ จึงทรงสามารถฝึกอบรมผู้ที่ควรฝึก ให้มีคุณธรรมและมีดวงตาเห็นธรรม แม้บุคคลที่ผู้อื่นฝึกไม่ได้ พระองค์ก็ทรงฝึกได้ เพราะเหตุนี้ จึงทรงพระนามว่า
“ทรงเป็นสารถีผู้ฝึกบุรุษที่ควรฝึก มิมีผู้อื่นยิ่งกว่า”