คำถาม : ในเรื่องของการบวชเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่ค่ะ อย่างที่มีคนไปบอกว่า บวชซิจะได้ทดแทนบุญคุณพ่อแม่ แต่เขากลับบอกว่า จริง ๆ เขาก็ให้เงินพ่อแม่อยู่แล้ว แถมอยู่ข้างนอกก็ได้ดูแลพ่อแม่ด้วย แต่บวชซิกลับไม่ได้อะไร ไม่ได้ให้ตังค์แล้ว ไม่ได้ดูแลอีก อย่างนี้ จะถือว่าทดแทนบุญคุณได้อย่างไร อันนี้อยากจะกราบเรียนให้พระอาจารย์ได้อธิบายให้ชัดเจนลงไปเลยค่ะ ว่าเพราะอะไรค่ะ ถึงทดแทนได้
พระอาจารย์ : เจริญพร คือคนเรา พระพุทธเจ้าพระองค์แบ่งประโยชน์เป็น 3 ขั้นนะคือ 1. ประโยชน์ชาตินี้ 2. ประโยชน์ชาติหน้า 3. ประโยชน์อย่างยิ่ง ได้แก่การบรรลุพระนิพพาน
ประโยชน์ชาตินี้ที่เราเห็น คือว่า ให้อยู่ในชาตินี้ได้อย่างมีความสุข ตั้งเนื้อตั้งตัวได้ มีทรัพย์สินเงินทองใช้ มีปัจจัย 4 พร้อมบริบูรณ์ เนี่ยนะ อันที่ 2 ประโยชน์ชาติหน้า คือ ได้สร้างบุญสร้างกุศล จนกระทั่งว่า เมื่อละโลกไปแล้ว ได้ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ อันที่ 3 ประโยชน์อย่างยิ่งก็คือว่า ปฏิบัติธรรมจนกระทั่งกิเลสค่อย ๆ น้อยลง ๆ แล้วบรรลุพระนิพพานในที่สุด เราดูแลพ่อแม่แบบให้ตังค์ท่านใช้เนี่ย ก็คือได้แค่ประโยชน์ชั้นต้นสุด คือประโยชน์ชาตินี้นั่นเอง แต่ประโยชน์ชาติหน้ายังไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง แต่ถ้าเกิด เรามาบวชเรียน ตั้งใจประพฤติปฏิบัติตัวให้ดี แล้วชักนำคุณพ่อคุณแม่ญาติพี่น้องครอบครัวให้มาเข้าวัดเข้าวา ประพฤติปฏิบัติตามไปด้วย เอ้า ลูกชายบวชหนิใช่ไหม พ่อแม่ก็ต้องมาทำบุญใช่ไหม มาเยี่ยม มาใส่บาตร มาฟังเทศน์ ฟังธรรม ปฏิบัติธรรมเนี่ย อันนี้ท่านจะได้สร้างบุญสร้างกุศล ให้ได้ประโยชน์ชาติหน้าด้วย แล้วประโยชน์อย่างยิ่งด้วย มันลึกซึ้งกว่ากันเยอะ แต่ถ้าเกิดว่าได้บวชและได้ศึกษาธรรมะด้วย แล้วปฏิบัติตัวให้ดีนะ นั้นแหละ แม้ในชาตินี้ก็ตาม เราจะเอาความสุขใจชื่นใจที่แท้จริงไปให้กับท่าน เพราะเราเองเป็นผู้ที่ดำรงชีวิตโดยมีหลักธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวใจนี่ใช่ไหม เจริญพร