ความเป็นเลิศของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระชาติสุดท้ายที่พระโพธิสัตว์จะลงมาบังเกิดเพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บรมครูของมนุษย์และเทวา จึงเป็นพระชาติที่สมบูรณ์ที่สุด เป็นการประมวลรวมบุญบารมีที่สั่งสมมายาวนานทุกภพทุกชาติ ให้มาส่งผลรวมกันในชาติเดียว ทำให้พระพุทธองค์เป็นผู้เลิศกว่าใครในจักรวาล
ทางโลก
- สามารถเลือกเกิดได้ เช่น เลือกเกิดที่ชมพูทวีปซึ่งมีความเจริญสูงสุดในสมัยนั้น เลือกเกิดในวงศ์กษัตริย์ เป็นพระราชโอรส เลือกพระมารดาผู้มีบุญและมีความพร้อมในการให้กำเนิดกายเนื้อ เป็นต้น
- ร่างกายที่งดงาม และแข็งแรงเป็นเลิศ ประกอบด้วยลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการ
- มีปัญญามาก ศึกษาจบศิลปศาสตร์ 18 ประการ ตั้งแต่พระชนมายุเจ็ดปี
- มีทรัพย์สมบัติมากมายสุดคณานับ นับตั้งแต่วันประสูติ ก็มีขุมสมบัติใหญ่ 4 แห่งเกิดขึ้นมาพร้อมรองรับ
- ทรงประทับในประสาท 3 ฤดู มีข้าราชบริพารซึ่งล้วนแต่เป็นหญิง 40,000 คนคอยรับใช้
- เป็นรัชทายาท ผู้จะครองราชสมบัติต่อไป
- มีบุญมาก สามารถเป็นพระเจ้าจักรพรรดิปกครองทวีปทั้ง 4
ทางธรรม
- ทรงมีพุทธคุณคือ พระวิสุทธิคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ
- ทรงตรัสรู้สุดยอดความรู้คือ อริยสัจ 4 คือความรู้ที่สามารถกำจัดทุกข์ ให้หมดสิ้นไป ได้ด้วยพระองค์เอง
- คำสอนของพระพุทธองค์มีจริง ดีจริง พิสูจน์ได้จริง ควรแก่การเข้าถึง เพื่อเป็รสรณะ (ที่พึ่งที่แท้จริง)
- เป็นครูของมนุษย์และเทวดา สามารถสอนให้สรรพสัตว์ หมดกิเลสตามพระพุทธองค์ได้
- ทรงวางหลักสำหรับ พระศาสนาและหมู่สงฆ์ ให้งดงาม (โอวาทปาติโมกข์) ให้เป็นที่พึ่งแก่สรรพสัตว์ต่อไปอีกนานแสนนาน แม้ว่าพระพุทธองค์จะทรงปรินิพพานไปแล้ว เช่น ไม่ฆ่า ไม่ทำร้าย ไม่ว่าร้าย มีเป้าหมายคือบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ เป็นต้น