พิมพ์
รายละเอียด: | ฮิต: 7645

ให้เรตสมาชิก: 5 / 5

ดาวใช้งานดาวใช้งานดาวใช้งานดาวใช้งานดาวใช้งาน
 
  ไม่เสียดาย.... 
คนเป็น ๆ ได้อ่านแล้ว
ดังตฤณ
             เมื่อเอ่ยนาม  ดังตฤณ แทบไม่มีใครที่ไม่รู้จัก
ทั้งในวงการผู้อ่านธรรมะ และนักอ่านทั่วไป
               คุณดังตฤน  มีข้อคิดจากหลักธรรมง่าย ๆ มาเสนอท่านผู้อ่าน อย่างผู้รู้ ผู้เข้าใจเชิงลึก ด้วยภาษาเป็นเหตุเป็นผล  ผ่านประสบการณ์การบ่มเพาะ    และการศึกษาเรียนรู้ทั้งปริยัติ และปฏิบัติ  จึงเป็นงานเขียนที่มีเสน่ห์  ที่เข้าถึงคนกลุ่มวัยต่าง ๆ ได้ดี    ความเกรียวกราวของหนังสือ     เสียดาย.... คนตายไม่ได้อ่าน    เล่มนี้ทำให้ใครต่อใครรู้จักนักเขียนธรรมะ ชื่อ ดังตฤณ ขึ้นมาทันที  ยอดพิมพ์ซ้ำกว่า 19 ครั้ง  จำนวนพิมพ์จนถึงปัจจุบันกว่าแสนเล่มแล้ว  เรียกได้ว่าเป็นหนังสือธรรมะขนาด 200 หน้า ที่เป็น Top Hit  ทีเดียว   หนังสือต่อจากนั้นอาทิ  เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว, คิดจากความว่าง, กรรมพยากรณ์ 2 ตอน, วิปัสสนานุบาลม, 7 เดือน บรรลุธรรม  และอื่น ๆ อีกหลายเล่ม  เล่มที่น่าสนใจ ที่อยากหยิบยกมาฝากน้องๆ เตรียมบวชคือ “มีชีวิต.... ที่คิดไม่ถึง”         

           เรารู้จัก และเข้าถึงคุณดังตฤณด้วยวิธีง่าย ๆ ใน  www.dungtrin.com  ซึ่งรวบรวมหนังสือทั้งหมดที่คุณดังตฤณเขียน  และมีให้ดาวน์โหลด mp3  ฟังธรรมะอีกด้วย         

           คุณดังตฤณ  ไม่เคยคิดว่าการเขียนหนังสือธรรม  จะทำให้เป็นคนรวย หรือมีชื่อเสียง  แต่คุณดังตฤณคิดแต่เพียงว่า “อยากเขียนในสิ่งที่อยากเขียน ไม่ได้เขียนเพราะอยากดัง”   ในช่วยอายุ 16-17 ปี  คุณดังตฤณเล่าว่า  ผมก็เป็นเด็ก วัยรุ่นธรรมดาๆ  ไม่ได้แตกต่างจากเด็กคนอื่น  แต่ที่แตกต่างคือ ความคิดข้างใน  ผมมีความรู้สึกว่า  ถ้าในอนาคตข้างหน้า เราไม่ชอบทำอะไรเลยสักอย่างเดียว  ดูไปแล้วไม่เห็นมีอะไรที่น่าจับต้อง น่าศึกษา  เราจะมีชีวิตไปเพื่ออะไร”   จากนั้น 1 หรือ 2 ปี ก็เกิดความสนใจคำว่า “วิปัสสนา”  จึงไปซื้อหนังสือเล่มเล็กๆ ของท่านอาจารย์ธรรมรักษามาอ่าน  จึงเริ่มมีความเข้าใจแนวคิดพี้นฐานของพุทธศาสนา”         

           คุณดังตฤณ เคยบวชเมื่ออายุ 20 ปี  ขณะที่เรียนอยู่ที่เอแบค  วัดที่คุณดังตฤณบวชเป็นวัดป่าของหลวงพ่อพุธ  ฐานิโย   ตอนนั้น บวชประมาณ 1 เดือน จากนั้นก็อ่านหนังสือธรรมะหลายเล่ม และลงมือปฏิบัติธรรม  จนอายุ 22 ปี  เกิดแรงบันดาลใจในการเขียน  จึงเริ่มเขียนบทความส่งนิตยสารธรรมะ และกลายมาเป็นหนังสือหลายเล่ม  ที่ให้ความรู้ธรรมะด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายๆ จนเป็นที่ติดตา ติดใจแฟนนักอ่าน         

           คุณดังตฤณ มีวัตถุประสงค์ในการเขียนหนังสือทุกเล่ม  คือ  ข้อแรก ตั้งใจจะให้ผู้อ่านรู้ และให้เข้าใจจริงๆ ว่าพระพุทธเจ้าตรัสไว้อย่างไร   ข้อสอง คือ ให้ศึกษาว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้สามารถประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงได้  เป็นของจริง ไม่ใช่ของที่คิดเอา  แต่งเอา  ข้อสาม มีการตั้งความปรารถนาไปถึงประโยชน์สูงสุดที่พระพุทธเจ้าแสดงไว้   คุณดังตฤณ บอกว่า       “ผมได้ข้อสรุปอย่างหนึ่งว่า คนไม่ว่ายุคไหน สมัยไหน หรือชาติไหน  ถ้ารู้ว่าพระพุทธเจ้าตรัสอะไรไว้ สนใจกันทั้งนั้น   แต่ที่ไม่สนใจ... เพราะไม่รู้ว่า  พระพุทธเจ้าตรัสอะไร  ผมแค่ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมคนที่อยู่ยุคเดียวกัน... ตรงนี้แหละผมเข้ามาทำหน้าที่.... “         

           เคยบ้างไหมที่เรารู้สึกว่า....
           ไม่อยากตามใจตัวเอง
         

           ต้องฝืนใจตัวเอง         

           รู้สึก เซ็ง เครียด เบื่อ กลุ้ม         

           รู้สึกกลัดกลุ้มหาทางออกไม่ได้         

           อยู่ในวังวนของปัญหา         

           หากเราเคย... อารมณ์แบบนี้คือ   “มีชีวิต ที่คิดไม่ถึง”  บทที่ 11 หน้า 232      คุณดังตฤณ เขียนเรื่องจิต ไว้อย่างน่าสนใจทีเดียว  

           “....เมื่อตั้งใจรักษาศึลแล้วรักษาได้  แม้เกมกรรมจะส่งเรื่องยั่วยวนชวนเสียสัตย์ให้ลองใจ  สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดในระยะสั้นคือ  จิตจะเบา  อบอุ่น  สว่าง  จากภายใน แล้วรู้สึกไว้ใจตัวเอง เห็นตนเองเป็นคนที่ไว้ใจได้มากขึ้นเรื่อยๆ ....”         

            “...จิตใจสงบเยือกเย็น  ความคิดด้านร้ายแม้มีอยู่ก็เบาบางลงมาก สามารถควบคุมความคิดได้ง่ายขึ้น ....   

           ผู้มีความฉลาดทางจิตย่อมมีจิตที่สงบ  หนักแน่น  และรู้เห็นโลกอย่างเที่ยงตรง  อะไรจะมีค่าไปกว่าการมีจิตที่ดีขึ้น ....

           ในเมื่อจิตคือสิ่งที่คุณต้องทนรำคาญ....

           หรือ ชื่นชมยินดีอยู่ตลอดวันตลอดคืน         

           .... และจิตนี่เองเป็นต้นเค้าของกรรมทั้งปวง         

           เมื่อจิตสว่างย่อมปรารถนาที่จะทำ  กรรมขาว  สุคติย่อมเป็นที่หวัง        เมื่อจิตมืดย่อมใคร่ที่จะทำ  กรรมดำ  ทุคติย่อมเป็นที่หวัง         

           สรุป คือ ขอเพียงจิตคุณดีอย่างเดียว อะไรอย่างอื่นที่จะตามมาดีหมด   หากการเปลี่ยนแปลงของคุณเข้าลึกมาได้ถึงจิต    ก็แปลว่า ทั้งปัจจุบันและอนาคตไม่มีอะไรน่าห่วงอีกแล้ว”          

           อยากอ่านต่อ และน่าติดตามใช่ไหมคะ....  เป็นศิลปะของคุณดังตฤณทีเดียว  ที่ถ่ายทอดคุณลักษณะของจิต ให้ผู้อ่านเข้าใจและเห็นคุณภาพของจิตที่ดี  ที่เป็นรูปธรรมชัดเจน         

           การฝึกจิตให้มีคุณภาพที่ดี  ไม่เพียงแค่นึก ๆ อยาก ๆ เท่านั้น  คงต้องผ่านกระบวนกล่อมเกลา ขัดเกลาทั้งกาย และใจ  ในระยะเวลาช่วงหนึ่ง เหมือนเคี่ยวให้ได้ที่  นึ่งให้ได้ที่  กวนให้ได้ที่  จึงจะได้อะไร ๆ ที่อร่อยดี  มีคุณภาพ 

.... จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้อยากมีจิตที่ฝึกดีแล้วมาบวชสักทีดีไหมจะได้รู้จักจิตที่ฝึกดีแล้ว  ว่าเป็นอย่างไร ....

ที่มา ... หนังสือ "จุดเปลี่ยน"