พิมพ์
รายละเอียด: | ฮิต: 8854

ให้เรตสมาชิก: 5 / 5

ดาวใช้งานดาวใช้งานดาวใช้งานดาวใช้งานดาวใช้งาน
 

            ธรรมทายาทณวัสพล หาชิต ในโครงการอุปสมบทหมู่ ๑๐๐,๐๐๐ รูป ทุกหมู่บ้านทั่วไทย

      ณวัสพล หาชิต อายุ ๒๔ ปี ก่อน มาอบรมธรรมทายาท ผมเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัย  มหิดลครับ ผมศึกษาสายวิทยาศาสตร์มาตลอด ผมไม่เคย ไปปฏิบัติธรรมหรือเข้าวัดทำบุญที่ไหนเลย ผมมีความคิด ว่า การทำบุญก็แค่หยอดตู้ก็พอแล้ว ก็คงได้บุญแล้ว (ได้ จ้ะ แต่ได้นิดหน่อย) คนเราทำความดีเองก็ได้ไม่ต้องเข้า วัดหรอก (ก็จำเป็นจ้ะ เพราะมีหลายสิ่งที่เรายังไม่รู้เลย)

      แต่ครั้งนี้ที่ผมตัดสินใจเข้าโครงการบวช ๑๐๐,๐๐๐ รูป เพราะว่าผมชอบเล่นเกมออนไลน์ ผมเล่นมานานแล้ว ครับ ตั้ง แต่เรียนอยู่ ม.ปลาย สนุก มากเลยครับ จนผมเลิก ไม่ได้ ในเกมที่ผมเล่นมีคนหลายอายุ ทั้งคนที่ทำงานแล้ว หรือกระทั่งนักศึกษาอย่างผมก็มาเล่นกัน วันหนึ่งผมได้รู้จักกับผู้เล่นคนหนึ่ง เขาใช้ชื่อว่า “นกกะปูด” เขาบอกผมผ่านออนไลน์ว่า ตอนนี้ที่วัดพระ ธรรมกาย มีโครงการบวชพระ ๗,๐๐๐ ตำบล มาบวชไหม เพราะว่าเขาไม่มีลูก (นกกะปูดไม่มีลูก เขาอยากหาคน บวชให้) ด้วยความสงสารป้านกกะปูด ผมก็เลยตัดสินใจว่า โอเคครับ ป้านกกะปูด เดี๋ยวผมจะบวชให้ก็แล้วกัน (เอ้อ นี่ผู้มีบุญ ที่เคยเกื้อกูลกันมา เห็นไหมจ๊ะ)

      แต่แล้วผมก็ติดเรื่องเรียน มาบวชไม่ได้ในคราว นั้น แต่ป้านกกะปูดก็ยังไม่ละความพยายาม ในการทำหน้าที่ผู้ให้แสงสว่าง ป้ามาชวนผมอีกครั้งในโครงการบวช ๑๐๐,๐๐๐ รูป ในครั้งนี้ ป้านกกะปูดได้นัดเจอผมเป็น ครั้งแรก ผมก็รู้สึกทึ่งมากๆ เลย ที่ทึ่งเพราะไม่นึกว่า จะมี คนอย่างนี้ในโลก (อ๋อ เชื่อเถอะ เพราะคนประหลาดๆ อยู่ แถวๆ นี้ทั้งนั้น คนประหลาดมาจากแดนประหลาด เพื่อ มาชวนคนปกติบวช) เพราะป้าเป็นคนธัมมะธัมโมมากๆ เลิฟวัดพระ ธรรมกายและพระพุทธศาสนามากๆ ป้านกกะปูด เธอ มีชื่อจริงว่า เบญจวรรณ โปษยานนท์ครับ อายุ ๔๐ ปี ผม เรียกเธอสั้นๆ ว่า ป้านกครับ (ป้าเบิร์ด) วันนั้นผมตัดสินใจ

     เขียนใบสมัครต่อหน้าป้าเลย เธอดีใจมากที่ผมตัดสินใจ บวช และผมมาทราบภายหลังว่า ผมเป็น The Number One เป็นคนแรกที่ป้าชวนบวชได้สำเร็จพอคุณพ่อคุณแม่ของผมท่านทราบว่า ผมจะบวช ท่าน ก็ตกใจ ไอ้ที่ตกใจไม่ใช่ตกใจว่า ผมจะบวชนะครับ ที่ตกใจ คือ บวชฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย มีที่ไหน ให้ ท่านจัดงานบวชให้เอาไหมล่ะ (บอกกับลูกชายนะ) ผมก็ บอกท่านว่า ผมจะบวชแบบอปุ สมบทหมู่น แี่หละ บวชเดี่ยว สู้บวชหมู่ไม่ได้ บวชคนเดียวมันเหงา เดี๋ยวไม่มีใครสอน ผม และการบวชครั้งแรกในชีวิต ผมอยากบวชเพื่อเป็น พระแท้ครับ (สาธุ โอ้ แค่ตัดสินใจบวชแล้วคิดอย่างนี้ บุญเกิดขึ้นกับตัวเราและบิดามารดา รวมทั้งป้านกกะปูดด้วย)

     แล้วผมก็ได้มาวัด พระธรรมกายเป็นครั้งแรก โดยมีป้านกพาผม (มา แบบนก) ขี่มอเตอร์ไซค์ ร่อนมาเลย ร่อนทั่ววัด ผมรู้สึก ตื่น เต้นมากๆ กับ สถานที่ ที่เป็นศูนย์รวมและเป็นศูนย์กลางของชาวพุทธ อีก ทั้งมีคนที่อยากบวชเหมือนผมนับหมื่นนับแสนคน มันช่าง มหัศจรรย์จริงๆ ครับ

      ผมเลือกมาอบรมที่ศูนย์การศึกษาเขาแก้วเสด็จ ผมชอบที่นี่มาก มันสงบวิเวกแล้วก็อากาศดี การอบรมก็เข้มข้น ผมได้รับความรู้มากมายที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน ตอนค่ำผมก็ได้ฟังหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่เทศน์สอนผ่าน DMC ทุกคืน ผมได้เรียนรู้ชีวิตธรรมทายาทที่ตั้งใจฝึกตัว เพื่อให้ได้บวชเป็นพระแท้ ได้อยู่อย่างสมถะ สันโดษ ไม่ ต้องมีอะไรมาก แค่เสื้อ ๒ ชุด และของใช้ที่จำเป็น แค่นี้ ชีวิตก็อยู่ได้แล้วครับ

     (คือ ถ้าเราร้คู ำ ตอบว่า เกิด มาทำ ไม สิ่ง ที่เราต้องการ มีไม่มากเลย แค่ปัจจัยสี่ ไม่มีปัจจัย ๕, ๖, ๗, ๘ Infinity  ไม่มีนะจ๊ะ) แค่นี้ชีวิตก็อยู่ได้แล้วครับ (อยู่ได้ดีด้วย เป็น ชีวิตที่เรียบง่ายแต่สูงส่งจ้ะ)

 

      ในแต่ละวันผมจะได้นั่งสมาธิวันละหลายรอบ พระ อาจารย์จะสอนให้ธรรมทายาททุกคนมีกติการ่วมกัน ก่อนนั่งสมาธิว่า ว่าไงว่าตามกัน ให้เชื่อว่าคนอย่างเรา ก็ทำได้ (ถูกต้องจ้ะ) และไม่เอ๊ะ ไม่อ๊ะ ไม่สงสัย เพราะธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดีจริง และเข้าถึงได้จริง จะเอาอะไรเป็นนิมิตก็ได้

      วันแรกๆ ก็มีเรื่องฟุ้งซ่านบ้างครับ ผมจึงเริ่มหาวิธี เปลี่ยนเรื่องฟุ้งใหม่ ด้วยการนึกถึงสิ่งที่ผมชอบและนึกได้นั่นก็คือ ดอกทานตะวันสีเหลืองใหญ่ๆ พอนึกได้สักพัก หนึ่ง จากดอกทานตะวันก็นึกให้กลายเป็นดวงแก้วใสๆ ก็ นึกได้ไม่ยากเลยครับ แต่พอพระอาจารย์บอกว่า ให้เลื่อน ดวงแก้วที่นึกได้ไปที่ศูนย์กลางกาย ให้อยู่กลางท้อง ผมก็ ทำ อยู่ ๒ วัน ครับ กว่าจะเอามาไว้ภายในท้องได้ จนเริ่ม คุ้น ที่จะมีอะไรมาอยู่ในกลางท้อง

      พอผมเริ่มทำได้แล้ว ผมก็เริ่มฝึกเอาใจไปแตะที่กลาง ดวงแก้ว (แตะเบาๆ ใช้ระบบสัมผัสนะจ๊ะ) ด้วยการเอา ความรู้สึกไปแตะที่ดวงแก้ว (แตะนะจ๊ะ ไม่ใช่กด กดไม่ เอานะจ๊ะ) พอทำได้สักพักผมก็รู้สึกตัวเหมือนถูกดูด ผม ตกใจมาก แต่พอตกใจปุ๊บก็จะหลุดออกมาเลยครับ (คือ มันจะมีการชักเย่อกัน ข้างในก็จะดึงดูดเราเข้าไป ข้างนอก ก็จะเหนื่ยวรั้ง ออกมา กลัว เพราะไม่รู้ว่าอะไรมัน จะเกิดขึ้น

      อยู่ว่างๆ ธรณีสูบอย่างนี้ อาการคล้ายๆ อย่างนั้น เหมือน ถูกดูดเข้าไป มันก็ชักเย่อกันอยู่อย่างนั้น) ผมตกใจ (ตกใจสากลจ้ะ ใครๆ เป็นอย่างนี้ เขาก็ตกใจ  แต่ทีเดียว พอตอนหลังชอบ) พอตกใจป๊บุ ก็จะหลุด ออกมา เลยครับ แล้วผมก็ต้องมานั่งเริ่มต้นใหม่ ผมเริ่มต้นอย่าง นี้อยู่หลายครั้ง

      แต่แล้วในที่สุดผมก็หาจุดศูนย์ตรงกลาง แสงเจอ ผมกHปล่อยใจวางลงไปเบาๆ พอทำ ได้ป๊บุ มนั กด็ ดูลงไปเลยครับ ตอนนั้นผมยอมให้ดูด รู้สึกเหมือนตัววูบๆ วาบๆ มาก เหมือนตัวของผมมันคดๆ งอๆ และมันย่อได้  แต่เพื่อนๆ ก็บอกว่า ผมยังนั่งตัวตรงอยู่ แต่ความรู้สึกของ ผมมันคดๆ งอๆ (สิ่งที่ควรทำนะจ๊ะ คือดูไปด้วยใจสบาย) ซึ่งภารกิจของผมที่พระอาจารย์บอกไว้คือ ถ้าเข้าไป ถึงดวงหรือองค์พระได้แล้ว ต้องหาศูนย์กลางดวงหรือ องค์พระให้ได้ แล้วก็ทำใจนิ่งๆ ในกลางนั้น แล้วมันจะเข้า ไปเรื่อยๆ พอผมปล่อยใจไปเรื่อยๆ ก็จะไปถึงจุดหนึ่งที่นิ่ง มากๆ (นี่เมื่อทำตามพระอาจารย์แนะนำแล้วนะจ๊ะ)

      พอนิ่งคราวนี้ก็จะเห็นดวงแก้วสีขาวสว่างๆ ดวงใหญ่ มากๆ ซึ่งพอถึงดวงแก้วดวงนี้ ก็จะรู้สึกเบาอีกครั้งหนึ่ง พอถึง ดวงที่สองก็รู้สึก เบาเพิ่ม อีก นดิ พอถึง ดวงถัด ไปก็ เบาขึ้น ไปเรื่อย ๆ จนถึง ดวงที่ ๖ (สาธุ ก็ คนอยู่กลางดวงแก้วนั้น ตอนแรกๆ ก็เห็นไม่ชัดนะครับว่าใคร แต่พอนั่งไปๆ ภาพก็ชัดขึ้น (ใช่จ้ะ บางคนก็จะปึ๊บ ชัดเลย แต่บางคนก็ ค่อยๆ ชัดขึ้น ใสขึ้น สว่างขึ้นเรื่อยๆ )

     ภาพคนก็ชัดขึ้น จาก เล็กๆ ก็ใหญ่ขึ้นจนใหญ่มาก ผมเห็นเป็นกายใสๆ มีลักษณะ เหมือนคนนั่งขัดสมาธิ แล้วผมก็แตะใจไปที่กลางกายของ คนที่เห็น พอลงไปอีกก็มีดวงแก้วเกิดขึ้นอีกหลายดวงเลย ครับ แล้วในกลางดวงแก้วดวงใหม่สุดท้ายที่ผมเห็นก็จะ กลายเป็นคนที่หน้าตาดีมากๆ ผิวขาวสะอาด สว่างเป็นสี นวลๆ เหมือนเทวดาเลยครับ (ไม่รู้อะไรเลยก็ดี เหมือนกัน นี่นะ) แต่หน้าตาเหมือนผมเลยครับ เมื่อแตะใจที่กลาง

     ต่อไป สิ่งที่ผมเห็นคราวนี้มันวูบๆ วาบๆ อีกแล้วครับ ผ่านดวงเข้าไปอีกแล้วครับ ผมก็เห็น เป็นองค์พระองค์ใหญ่มาก ที่หาขนาดไม่เจอ สีขาวๆ แต่ ไม่ขาวมาก แต่มีความสว่างเพิ่มขึ้น พอลงไปเรื่อยๆ อีก ผมก็เห็นเป็นองค์พระที่ใหญ่มากๆ ขึ้นไปอีก แล้วผมก็เห็น ตัวผมใส่ชุดขาวนั่งอยู่เล็กๆ เป็นภาพที่ชัดมากๆ แล้วองค์

     พระที่เห็นก็เล็กลงจนขนาดเท่ากับตัวผม จนตัวผมไปนั่ง อยู่ตรงกลางองค์พระ  แล้วองค์พระก็หาย ไป กลายเป็นดวงแก้วใสขึ้นมา (คือ ใจมันจะละเอียดลง ไปเรื่อยๆ นี่คือประสบการณ์ภายในที่เขายัง ไม่ร้เู รอื่ งอะไร เลย เห็นไหมจ๊ะ)

     องค์พระมา ดวงแก้วใสหายไป เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง ปัจจุบัน กลายเป็นองค์พระแก้วใสติด อยู่กลางกาย ผม จะเห็นแบบนี้ตลอดเลยครับ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วครับว่า คำสอนของพระสัมมา สัมพุทธเจ้า สามารถเรียนรู้ได้ด้วยการทำใจให้หยุด นิ่ง เพราะ แม้ว่าผมจะเรียนวิทยาศาสตร์มา แต่กว่าที่ผมจะรู้ใจและ

     เห็นใจตัวเองได้มีวิธีเดียวครับ คือการนั่งหลับตา และผม ก็รู้แล้วว่า ใจของผมอยู่ที่ไหน มันไม่ใช่อยู่ที่หัวใจ และวิธี การเดียวที่จะเข้าถึงได้ต้องเบาๆ สบายๆ อย่าผลัก อย่าดัน สิ่งที่ผมได้รับ คือ ความสุขที่ทำให้ผมยิ้มได้ทั้งวัน ใจพองโต ขยายใหญ่

 

 

      ผมอยากให้ทุกคนในโลกมีความสุขอย่างที่ผม ได้รับ ภาพจากภายในที่ผมเห็นสวยมากจริงๆ ครับภาพองค์พระภายนอกที่มนุษย์แต่งแต้มหรือสร้างสรรค์ ขึ้น เป็นเหมือนวัตถุแข็งๆ ที่ไม่มีชีวิตเลย และสิ่งที่ปั้นขึ้นมายังมีผิดเพี้ยนด้วย แต่ความจริงที่ผมได้เห็นด้วยใจของ ผมเอง ช่างงดงามและไม่มีอะไรมาเทียบได้ตอนนี้ผมกลายเป็นคนอารมณ์ดีไปทั้งวันเลย ไม่ เครียด และก็มีความอดทนทำอะไรได้มากขึ้น เพราะผมรู้แล้วครับว่า ทุกสิ่งที่หลวงพ่อ พระอาจารย์ และพระพี่เลี้ยง ให้ทำ ล้วนแต่มีผลต่อการฝึกใจของผมมากๆ 

      ผมอยากบอกชายแท้ๆ ทุกคนว่า แม้คุณจะบวชมา แล้วกี่ครั้งก็ตาม แต่ถ้าได้ บวชในโครงการนี้ ชีวิตคุณจะมีค่ามากกว่าที่เป็นอยู่ ทุกวันนี้ครับ  ผมอยากขอบคุณป้า นกกะปูด หรือคุณเบญจวรรณโปษยานนท์ ที่ ชวนผมมาบวช เพราะเกมออนไลน์ที่คุณป้าเล่นผมขอกราบแทบเท้าขอบพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ ใหญ่นะครับ ที่ให้ชีวิตใหม่กับผม และผมจะตั้งใจนั่งสมาธิเพราะผมอยากเป็นพระแท้ให้ได้ในคราวนี้ครับ กราบแทบเท้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูง

 

พระธรรมทายาทณวัสพล ชุติชโย